Skip to main content

หนึ่งในประโยชน์ของโมเดลการเรียนรู้แบบผสมผสานคือการช่วยให้ครูและผู้ฝึกอบรมสามารถเข้าถึงผู้เรียนจำนวนมากขึ้นโดยใช้เวลาน้อยลง แบรม แจนเซ่น หัวหน้าบรรณาธิการของ vpnAlert กล่าว “การเรียนรู้แบบผสมผสานไม่เหมือนกับวิธีการทั่วไป การเรียนรู้แบบผสมผสานไม่จำเป็นต้องมีครูอยู่ตลอดเวลา” เขากล่าว “ห้องเรียนแบบดั้งเดิมสามารถรองรับนักเรียนได้เป็นจำนวนจำกัดในการสอนแต่ละครั้ง” สิ่งนี้กลายเป็นปัญหาอย่างชัดเจนในช่วงการระบาดใหญ่ เมื่อการเว้นระยะห่างทางสังคมและพื้นที่ปลอดภัยเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องมีในการศึกษาทุกระดับ

นับตั้งแต่ช่วงแรกเริ่มของการเว้นระยะห่างทางสังคม ครู ผู้บริหาร นักเรียน และผู้ปกครองได้เรียนรู้มากมายว่าโมเดลการเรียนรู้แบบผสมผสานประเภทต่างๆ สามารถช่วยอำนวยความสะดวกและยกระดับการให้ศึกษาได้อย่างไร  

“การใช้โมเดลการเรียนรู้แบบผสมผสานที่หลากหลายมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการตอบสนองความต้องการเฉพาะตัวของเด็กทุกคน” จูลี่ มอร์โรว์ ผู้อำนวยการฝ่ายสนับสนุนความเป็นผู้นำของ Achieve3000 กล่าว “เมื่อทำอย่างถูกต้อง การเรียนรู้แบบผสมผสานจะช่วยให้ครูสามารถอำนวยความสะดวกในสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่เด็กๆ จะมีแรงบันดาลใจที่จะสร้างความก้าวหน้าในการเรียนรู้ของตนเองตามเวลา ความเร็ว สถานที่ และเส้นทางที่ตนเองเลือก” เธอกล่าว

ในอดีต การศึกษาทางไกลมักเกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมแบบไม่ประสานเวลา ส่วนใหญ่เป็นเพราะไม่มีเทคโนโลยีหรือไม่มีประสิทธิภาพหรือเป็นมิตรกับผู้ใช้มากพอที่จะรองรับการโต้ตอบแบบประสานเวลา แต่ปัจจุบันไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว ทุกวันนี้ ครูและนักเรียนในทุกระดับและทุกสภาพแวดล้อมสามารถใช้ประโยชน์จากการผสมผสานรูปแบบการเรียนรู้ที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นชั้นเรียน K12 แบบผสมผสาน หลักสูตรวิทยาลัยแบบผสมผสาน หรือการเรียนรู้ออนไลน์ประเภทใดก็ตาม

โมเดลการเรียนรู้แบบผสมผสานในปี 2021

1. ห้องเรียนขนาดเล็กที่มีนักเรียนจำนวนน้อยและมีจอภาพขนาดใหญ่

มาร์ค น็อกซ์ เป็นที่ปรึกษาการขายโซลูชันแนวตั้งของ Sharp NEC Display Solutions เมื่อเร็ว ๆ นี้เขาได้พูดในการประชุมเทคโนโลยีการศึกษาเสมือนจริงเกี่ยวกับโมเดลการเรียนรู้แบบผสมผสานที่กำลังพัฒนาในช่วงการระบาดใหญ่ เขากล่าวว่าโมเดลเหล่านี้สามารถนำมาปรับใช้ได้ในทุกระดับของการเรียนรู้ ตั้งแต่ K-12 ไปจนถึงการศึกษาในขั้นที่สูงกว่า และในสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ขององค์กร

โมเดลที่มีขนาดชั้นเรียนที่เล็ก ห้องขนาดเล็กที่มีจอภาพขนาดใหญ่สามารถใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้เกิดระยะห่างทางสังคมและช่วยให้เข้าถึงข้อมูลและเครื่องมือการเรียนรู้ได้ง่าย “สถานการณ์เช่นนี้ช่วยให้เว้นระยะห่างทางสังคมภายในพื้นที่เล็กๆ ได้” น็อกซ์กล่าว เขาระบุเพิ่มเติมว่าในสภาพแวดล้อมประเภทนี้ สิ่งสำคัญคือการตรวจสอบให้แน่ใจว่านักเรียนสามารถเห็นองค์ประกอบบนจอภาพได้อย่างชัดเจนโดยไม่มีปัญหาเกี่ยวกับพิกเซล  

2. ห้องเรียนและจอภาพขนาดใหญ่สำหรับนักเรียนที่เว้นระยะห่างทางสังคม

นอกซ์กล่าวว่าสภาพแวดล้อมที่มีขนาดใหญ่ขึ้นยังต้องปรับแนวทางการสอนและการเรียนรู้โดยใช้ประโยชน์จากกลยุทธ์และโมเดลการเรียนรู้แบบผสมผสาน

มหาวิทยาลัยทั่วประเทศทำการปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็วเพื่อให้มีพื้นที่ที่มีการเว้นระยะห่างทางสังคมสำหรับนักเรียนในขณะที่นำเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อให้แน่ใจว่านักเรียนจะได้ยิน มองเห็น และโต้ตอบกันได้อย่างสะดวกสบายในขณะที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันซึ่งหน้า

3. นักเรียนที่อยู่ที่นั่นและที่นี่ สภาพแวดล้อมแบบไฮบริด

เทคโนโลยีในปัจจุบันช่วยให้นักเรียนและครูมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันในสภาพแวดล้อมแบบไฮบริด ซึ่งบางส่วนเรียนในห้องเรียนและบางส่วนเรียนจากระยะไกล ชั้นเรียนผ่าน Zoom ได้กลายเป็นช่องทางที่แพร่หลายในสภาพแวดล้อมเหล่านี้ทั้งหมด

“นี่เป็นสถานการณ์แบบไฮบริดที่คล้ายกับสภาพแวดล้อมของการเรียนรู้แบบดั้งเดิมมากที่สุด” น็อกซ์กล่าว เขากล่าวเพิ่มเติมว่าเมื่อมีการติดตั้งจอภาพหรือฉายภาพไปยังด้านหลังของห้อง ผู้สอน “สามารถยืนอยู่หน้าห้องและยังคงเห็นหน้าของนักเรียนทุกคนในชั้นเรียนได้” 

4. โมเดลการเรียนรู้แบบผสมผสานด้วยตัวเอง

อลิซาเบธ ฮิคส์ ผู้ร่วมก่อตั้ง Parenting Nerd เว็บไซต์ที่ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเลี้ยงลูก รีวิวผลิตภัณฑ์ และคำแนะนำสำหรับผู้ปกครอง กล่าวว่า “โมเดลแบบผสมผสานด้วยตนเอง” สามารถใช้ได้ทั้งในการสภาพแวดล้อมระดับ K-12 และการศึกษาในขั้นที่สูงกว่าเพื่อให้นักเรียนสามารถจบหลักสูตรที่ผู้สอนอัปโหลดให้นักเรียนสามารถเข้าถึงทางออนไลน์ได้ เธอกล่าวว่าโซลูชันนี้เป็นวิธีที่คุ้มค่าใช้จ่าย ช่วยให้นักเรียนหลายร้อยคนสามารถดูเนื้อหาได้พร้อมกัน และเรียนรู้ตามความเร็วที่ตนต้องการ อย่างไรก็ตาม เธอระบุว่ารูปแบบนี้มีข้อเสียบางประการ ไม่ว่าจะเป็นการแยกตัวออกจากสังคม ความต้องการแรงจูงใจในตนเองสำหรับการศึกษาระดับสูง และการขาดปฏิสัมพันธ์โดยตรงระหว่างนักเรียนและผู้สอน

5. โมเดลการหมุนเวียน

ฮิคส์กล่าวว่าโมเดลการหมุนเวียนมุ่งเน้นการสลับระหว่างโมเดลการเรียนรู้แบบผสมผสานต่างๆ ไม่จำเป็นต้องพยายามใช้แนวทางเดียวในสภาพแวดล้อมที่มีทางเลือกมากมาย “การหมุนเวียนสถานี การหมุนเวียนห้องทดลอง ห้องเรียนกลับด้าน และการหมุนเวียนของแต่ละคนเป็นหนึ่งในแนวทางต่างๆ ที่นักเรียนต้องพบในแบบจำลองนี้” เธอกล่าว เธอระบุว่าแนวทางนี้จะมอบประสบการณ์จากรูปแบบการเรียนรู้ที่หลากหลายให้แก่นักเรียน ซึ่งสามารถช่วยให้พวกเขาปรับตัวเข้ากับกลยุทธ์การเรียนรู้แบบผสมผสานประเภทใดก็ได้ “การหมุนเวียนที่แตกต่างกันสำหรับวิชาต่างๆ จะช่วยให้เกิดผลการเรียนรู้ที่ดีขึ้น เนื่องจากทุกวิชาได้รับการสอนโดยใช้โมเดลการหมุนเวียนที่เหมาะสมที่สุด” ฮิคส์กล่าว

อย่างไรก็ตาม ฮิคส์ยอมรับว่าโมเดลนี้อาจมีข้อเสียเกิดขึ้นได้ เช่น การเปลี่ยนแปลงที่มากเกินไปอาจทำให้นักเรียนสับสน และนักเรียนบางคนอาจไม่มีทรัพยากรที่จะทำงานกับโมเดลการหมุนเวียนต่างๆ

6. พื้นที่ส่วนตัวทุกที่ไม่ว่าอยู่ที่ใดก็ตาม

ทุกวันนี้ การศึกษาในทุกระดับมีการดำเนินการที่แตกต่างไปจากเดิม โดยที่นักเรียนและครูหลายคนมีปฏิสัมพันธ์กันจากที่บ้านหรือสภาพแวดล้อมเสมือนจริงอื่นๆ สภาพแวดล้อมเหล่านี้ให้ความยืดหยุ่นแก่นักเรียนและครูในการจัดพื้นที่การเรียนรู้และการเลือกอุปกรณ์ เช่น คอมพิวเตอร์ จอภาพ กล้อง แสงสว่าง ฯลฯ เพื่อตอบสนองความต้องการให้ดีที่สุด

 

ไม่ใช่ว่าโมเดลการเรียนรู้แบบผสมผสานเหล่านี้ทั้งหมดจะเหมาะสำหรับทุกสภาพแวดล้อมของการเรียนรู้ และไม่ใช่ว่านักเรียนทุกคนจะสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีที่ต้องการได้อย่างเท่าเทียมกัน เสน่ห์ของโมเดลการเรียนรู้แบบผสมผสานที่ยืดหยุ่นคือการมีทางเลือกและรูปแบบที่หลากหลายเพื่อให้เหมาะกับความต้องการและความชอบส่วนบุคคลและด้านการเรียนการสอน

“ไม่ใช่ว่าบุคคล งาน หัวข้อ หรือองค์กรทั้งหมดจะเหมาะสำหรับการใช้โมเดลการเรียนรู้แบบผสมผสาน” แจนเซ่นกล่าว “ให้พิจารณาว่ากลยุทธ์ใดที่ดีสำหรับพนักงานหรือลูกค้าของคุณในลักษณะเดียวกับที่คุณพิจารณาอายุการอ่านของเด็กๆ เมื่อเลือกหนังสือให้พวกเขา” เขาแนะนำ “พนักงานที่เคยชินกับทำงานด้วยมืออาจไม่ชอบใช้เวลาอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์มากนัก ดังนั้น คุณจะต้องนำปัจจัยเหล่านี้มาพิจารณาเมื่อพัฒนากลยุทธ์และทรัพยากรการเรียนรู้

มอร์โรว์ระบุว่าแม้ว่าชั้นเรียนการเรียนรู้แบบผสมผสานจะมีข้อดีและทางเลือกมากมาย แต่หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ขาดไม่ได้เพื่อให้ทุกอย่างได้ผลก็คือการเข้าถึงเทคโนโลยีที่เหมาะสม

“ต้องมีเครื่องมือและทรัพยากรดิจิทัลที่เหมาะสมสำหรับเด็กทุกคน” เธอกล่าว “หากไม่มีการเข้าถึงทรัพยากรที่เหมาะสม นักเรียนก็จะไม่สามารถเข้าถึงการเรียนรู้อย่างเพียงพอ”

ชั้นเรียน Zoom และเครื่องมือเช่น Class จึงเข้ามามีบทบาทด้วยการนำเสนอทางเลือกด้านการเรียนรู้ที่เป็นมิตรกับผู้ใช้ ยืดหยุ่น และไร้รอยต่อ เพื่อตอบสนองความต้องการของนักเรียนในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย ไม่ว่าจะมีการใช้โมเดลการเรียนรู้แบบผสมผสานประเภทใดก็ตาม